SUV ถูกกระบะเมาฝ่าไฟแดง ชนสนั่นกลางลำ ตีลังกาพลิกคว่ำ
นาทีระทึก วงจรปิดจับภาพอุบัติเหตุ “SUV” ถูกคนขับกระบะเมาฝ่าไฟแดง ชนสนั่นกลางลำ ตีลังกาพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า แถมชนแล้วหนี สุดท้ายไม่รอดตามไปจับกุมได้ที่โรงแรม
เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 17 มิถุนายน 2568 ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่แยกไฟจราจร หนองพอง เมืองพัทยา สายสองจอมเทียน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสาน ร.ต.อ.ปกรณ์ ประกอบนันท์ รองสว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา สาขาโค้งดงตาล พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยฯ รีบไปตรวจสอบ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋ง SUV ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 7 กง 9838 กรุงเทพมหานคร เสียหลักตีลังกาพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย เป็นคนขับ 1 ราย ทราบชื่อคือ นายวัชรพงศ์ เทพณรงค์ อายุ 51 ปี และนักท่องเที่ยวชายชาวเกาหลี 1 ราย หญิงไทย 4 ราย เจ้าหน้าที่เร่งเคลื่อนย้ายออกจากซากรถปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาล
ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อรีโว่ สีดำ ได้รับความเสียหายที่ด้านหน้าได้ขับหลบหนีไป แต่กันชนและป้ายทะเบียน หมายเลข 3 ขฮ 4287 กรุงเทพมหานคร ตกอยู่ที่เกิดเหตุ โดยพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถติดตามไปจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ทราบชื่อผู้ขับขี่คือ น.ส.ธันย์ชนก โปรยทอง อายุ 23 ปี อยู่ในอาการมึนเมาสุรา
สอบถามนายวัชรพงศ์ คนขับรถเก๋ง SUV ทราบว่าขับมาจากสุขุมวิทมุ่งหน้าชายหาดจอมเทียน จังหวะนั้นเป็นไฟกระพริบส้ม กำลังจะไฟแดง ด้าน น.ส.ธันย์ชนก คนขับกระบะมากับชาวต่างประเทศ ให้ข้อมูลว่า ขับกลับที่พักและกำลังคุยกันมาในรถ แล้วกำลังจะเบรก แต่ก็ชนเข้ากับรถคู่กรณีแล้ว ซึ่งยอมรับว่าตนเองดื่มมา ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลว่า รถยนต์เก๋งมุ่งหน้าลงชายหาดจอมเทียน ส่วนรถยนต์กระบะนั้นฝ่าสัญญาณไฟแดง เมื่อชนกับคู่กรณีแล้วไม่จอดกลับหนี จนตามไปเจอที่คอนโดฯ ดังกล่าว amitierencontre
เบื้องต้น ร.ต.อ.ปกรณ์ ประกอบนันท์ รองสว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา สาขาโค้งดงตาล ได้ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ผู้ขับขี่ทั้งสองราย น.ส.ธันย์ชนก คนขับกระบะ มีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย 130 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ส่วนนายวัชรพงศ์ มีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย 23 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ในขณะที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้อย่างชัดเจน จึงรวบรวมเป็นหลักฐานดำเนินคดี เพื่อความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายต่อไป.